เคยไหม? ที่เมื่อกินอาหารเย็นๆ หรือร้อนจัด แล้วเกิดอาการจี๊ดเสียวฟันจนต้องหยุดกิน ทำให้รู้สึกเสียอารมณ์กับอาหารหรือเครื่องดื่มมื้อนั้นไปทันที ซี่งอาการดังกล่าวนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณอาจกำลังจะพบกับอาการเหงือกร่นแล้วนั่นเอง และอย่าคิดว่าอาการเหงือกร่นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แล้วปล่อยผ่านเพราะอาจเกิดปัญหาภายในช่องปากในระยะยาวได้ รวมถึงอาจทำให้เกิดกลิ่นปากได้อีกด้วย ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับอาการเหงือกร่นกันเถอะ

เหงือกร่น คืออะไร

เหงือกร่น (Gingival Recession) ถ้าเพื่อความเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ อาการที่เหงือกที่อยู่รอบ ๆ ฟันนั้นเกิดการร่นไปหารากฟันทำให้เห็นบริเวณฟันมากขึ้นหรือจนเห็นรากฟัน อาการเหงือกร่นนี้ทำให้มีความเสี่ยงต่ออาการอื่น ๆ ตามมาเช่น ฟันผุ เสียวฟัน เมื่อกินอาหารที่ร้อน เย็น หรือเปรี้ยว และเกิดคราบหินปูน ดูดไขมัน จนกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับช่องปากอื่น ๆ ตามมา

สาเหตุของเหงือกร่น

ต้นเหตุของการเกิดอาการเหงือกร่น ส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากพฤติกรรมของเราเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย และพร้อมไปกับสำรวจตัวคุณเองว่ากำลังทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่หรือไม่ เรามาดูกันว่าจะมีสาเหตุอะไรบ้าง

1.เลือกใช้แปรงสีฟันที่ไม่เหมาะสม

สาเหตุต้น ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะหรืออาการเหงือกร่น ก็คือ การเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงที่แข็งเกินไป หรือไม่เหมาะกับสภาพเหงือกและฟันของตัวเอง โดยเฉพาะหากขนแปรงแข็งเกินไป ก็จะไปทิ่มเหงือกให้เกิดการบาดเจ็บได้

2.แปรงฟันรุนแรงเกินไป

วิธีการแปรงฟันที่ผิดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหงือกร่นได้ ด้วยเพราะบางคนกลัวว่าฟันจะไม่สะอาดจึงแปรงฟันด้วยความรุนแรง จนทำให้เหงือกเกิดการบาดเจ็บ เกิดแผล รวมถึงเกิดการอักเสบ จนทำให้เกิดอาการเหงือกร่น นอกจากนี้แล้ว การแปรงฟันที่รุนแรงยังทำให้คอฟันสึกได้อีกด้วย

3.โรคปริทันต์อักเสบ

เป็นอาการของเหงือกที่เกิดการติดเชื้อแล้วอักเสบ บวม ถ้าหนักก็มีหนองได้ที่บริเวณเหงือก จนทำให้รู้สึกเจ็บปวดและเกิดความอ่อนแอจนพาเข้าสู่ภาวะเหงือกร่น

4.การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ภาวะเหงือกร่นยังเกิดได้จากได้จากฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มของคนวัยทองที่เป็นได้ทั้งชายและหญิง รวมถึงสตรีมีครรภ์ เพราะเป็นช่วงที่มีการขึ้นลงของฮอร์โมนที่ต่างจากคนปกติ จึงเป็นผลต่อสุขภาพเหงือก เช่น เกิดการบวมและเกิดอาการอักเสบ

5.การสูบบุหรี่

โดยส่วนมากนั้นจะพบได้ในกลุ่มเพศชาย ด้วยสารเคมีที่อยู่ในบุหรี่นั้นมีส่วนที่ทำให้เกิดคราบพลัค และค่อนข้างที่จะทำความสะอาดได้ยาก เมื่อปล่อยไว้นานก็เกิดเป็นคราบหินปูนที่ดันให้เหงือกเกิดการร่น

6.ภาวะเหงือกร่นจากอุปกรณ์จัดฟัน

สำหรับคนที่จัดฟันจะต้องมีการติดอุปกรณ์จัดฟันที่เราเคยเห็นกันบ่อย ๆ โดยเฉพาะการรัดรั้งฟันที่แน่นเกินไป และไม่เข้ากับรูปฟัน ก็จะทำให้เหงือกได้รับการบาดเจ็บ และเกิดการระบม จนลุกลามถึงภาวะเหงือกร่นจนเห็นฟันเพิ่มขึ้น

7.พฤติกรรมผิดๆ ที่ติดเป็นนิสัย

บางครั้งเราก็อาจมีพฤติกรรมทำร้ายเหงือกและฟันโดยที่ไม่รู้ตัว จนส่งผลทำให้เกิดเหงือกร่น เช่น การที่ใช้ไม้จิ้มฟัน หรือใช้ไหมขัดฟันที่ผิดวิธี การกัดฟัน หรือเคี้ยวฟันในตอนหลับ ก็มีผลกับเหงือกได้เช่นกัน

อาการของเหงือกร่น

สำหรับอาการเหงือกร่นนั้นบางครั้งก็อาจไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอาการเหงือกร่นแล้ว ซึ่งเมื่อทราบอีกทีก็มักจะมีอาการที่สามารถสังเกตได้ดังนี้

  • รู้สึกเสียวฟัน และรู้สึกเจ็บบริเวณเหงือก
  • หลังการแปรงฟันมักมีเลือดออก
  • ลมหายใจไม่สดชื่น และมีกลิ่นเหม็น
  • ฟันเริ่มมีลักษณะที่เปลี่ยนไป คือดูยาวขึ้น และมีฟันโยก
  • เวลาที่กัดหรือเคี้ยวค่อนข้างลำบาก

วิธีรักษาเหงือกร่น

วิธีการรักษาอาการเหงือกร่นเบื้องต้นก็จะรักษาตามต้นเหตุที่เกิดขึ้น และสิ่งที่ต้องรู้ไว้คือ เมื่อเหงือกร่นแล้ว จะไม่สามารถทำให้กลับมาดังเดิมได้ ทำได้แค่ป้องกันไม่ให้เสียหายมากไปกว่าเดิม ส่วนเหงือกที่เสียหายไปแล้วจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดทั้งการซ่อมแซมกระดูก และการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ สำหรับวิธีการรักษาเบื้องต้นก็จะสามารถทำได้ดังนี้

1.เริ่มจากการปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลรักษาฟันใหม่ โดยแพทย์จะแนะนำวิธีการแปรงฟันใหม่ให้เหมาะสมมากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น

2.ถ้าอาการเกิดจากโรคปริทันต์  สิ่งที่ต้องทำก็คือการขูดหินปูนเพื่อขจัดคราบหินปูนที่เกาะตามฟันออก ซึ่งจะช่วยให้เนื้อเยื่อเหงือกแนบสนิทกับฟันอีกครั้ง

3.สำหรับกรณีที่เกิดจากการใส่อุปกรณ์จัดฟันที่ไม่พอดี จะต้องแจ้งแพทย์ทราบเพื่อแพทย์จะได้ปรับอุปกรณ์จัดฟันให้พอดีกับช่องปากมากขึ้น จะช่วยให้อาการไม่เลวร้ายลงไปกว่าเดิมได้

วิธีป้องกันอาการเหงือกร่น

อาการเหงือกร่นนั้นสามารถป้องกันได้ โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เราทำกันอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงนอนหลับ และให้ความสำคัญกับการรักษาอนามัยของช่องปากด้วยวิธีที่ทำได้ไม่ยาก ดังต่อไปนี้

1.ควรที่จะเลือกใช้แปรงสีฟันที่ขนอ่อนนุ่ม และแปรงด้วยวิธีการที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการแปรงแบบรุนแรง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บต่อเหงือก รวมทั้งควรบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และหินปูน

2.เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีส่วนในการบำรุงสุขภาพเหงือกให้แข็งแรง

3.ควรสูบบุหรี่ลดลง เพราะสารพิษจากบุหรี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเหงือกร่นได้

4.ควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อทำการตรวจสุขภาพของช่องปาก  และเฝ้าระวังอาการเหงือกร่น เพราะหากพบปัญหาดังกล่าวเนิ่นๆ ก็จะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที

เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี และเหงือกที่แข็งแรง อย่ามองข้ามในเรื่องเหล่านี้เด็ดขาด นั่นคือ เรื่องของกลิ่นปาก และอาการเหงือกร่นที่ทั้งหมดนี้ คุณสามารถรักษาและป้องกันได้ ถ้าทราบถึงต้นเหตุของปัญหา ดังนั้น อย่าคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยแล้วปล่อยผ่านนะคะ เพราะฟันที่สวย เหงือกที่แข็งแรงย่อมจะสร้างรอยยิ้มและความมั่นใจได้นั่นเอง