ผดร้อน มีลักษณะเป็นตุ่มคันขนาดเล็กที่เกิดจากเหงื่อซึ่งเกิดจากการอุดตันใต้ผิวหนัง โดยจะพบเห็นได้บ่อยครั้งในช่วงหน้าร้อน ซึ่งผดร้อนนี้จะเกิดขึ้นบนบริเวณใบหน้า ลำคอ หลัง อก และต้นขา เป็นต้น ผดร้อนจะไม่เป็นอันตรายมากนักและยังสามารถที่จะหายเองได้เมื่อมีอากาศที่เย็นลง แต่อย่างไรก็ตามก็ควรที่จะศึกษารายละเอียดเพื่อที่จะเตรียมรับมือกับอาการดังกล่าว เพราะนอกจากจะสามารถรับมือรักษาได้แล้ว ยังจะได้เรียนรู้วิธีการป้องกันผดร้อนไปในตัวได้ด้วยนั่นเอง

สาเหตุของผดร้อน

ผดร้อน มีสาเหตุที่เกิดขึ้นหลักๆ มาจากเหงื่อที่ออกมาจากร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงสภาพอากาศที่ร้อน เพราะเหงื่อที่ไหลออกมาในปริมาณมาก จะทำให้เกิดการอุดตันและเกิดการสะสมจนทำให้เกิดเป็นตุ่มน้ำบริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

อาการผดร้อน

เมื่อเกิดผดร้อนจะมีอาการคันและมีตุ่มเล็กๆ ขึ้นบริเวณต่างๆ ของผิวหนัง โดยผดร้อนส่วนมากจะเกิดขึ้นใต้ร่มผ้าที่มีความอับชื้น โดยเฉพาะ รักแร้ ข้อพับแขน ขาหนีบ และผดร้อนนั้นก็มีหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

ตุ่มน้ำใส มีลักษณะเป็นตุ่มขนาด 1-2 มิลลิเมตร ไม่มีอาการเจ็บหรือคัน โดยอาการนี้จะพบได้บนลำตัวของผู้ใหญ่เป็นส่วนมาก หากเผชิญกับอากาศร้อน และยังจะเกิดขึ้นสำหรับทารกได้อีกด้วย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งตัว

ผดแดง มีลักษณะเป็นผื่นสีแดงขนาดเล็ก รู้สึกแสบคัน หรือระคายเคือง มักจะเกิดขึ้นในบริเวณผิวหนังที่มีการเสียดสี โดยพบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ตุ่มสีเนื้อ ขนาด 1-3 มิลลิเมตร ตุ่มประเภทนี้จะไม่มีอาการแสบหรือคัน และยังสามารถหายเองได้ตามธรรมชาติ

ตุ่มที่เป็นหนอง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้ออักเสบ โดยจะมีอาการแสบหรือคันร่วมด้วย

ผดร้อนแบบไหน เป็นแล้วควรรีบพบแพทย์?

สาเหตุของการเกิดผดร้อนมาจากสภาพอากาศที่ร้อน แต่เมื่อไรที่อากาศเย็นลง ผดร้อนก็จะหายไปได้เอง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ป่วยเป็นผดร้อนแบบผิดปกติ โดยมีอาการดังต่อไปนี้ แนะนำไม่ควรนิ่งนอนใจ โดยควรรีบพบแพทย์ทันที

1.ผดไม่ยอมหายเอง

เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อเกิดผดร้อน ผดจะใช้เวลาในการหายเองได้ภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าหากนานกว่านั้น แนะนำควรรีบพบแพทย์ทันที

2.ผดมีลักษณะที่เปลี่ยนไป

เมื่อผดที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังไม่ยอมหายและยังมีลักษณะที่แปลกออกไป ไม่ว่าจะเป็นตุ่มที่มีการขยายใหญ่ขึ้นเป็นวงกว้าง รวมถึงมีสีที่เปลี่ยนไป ผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์ทันที

3.เจ็บปวดมากขึ้น

นอกจากอาการผดจะไม่หายแล้ว หากผู้ป่วยมีอาการปวดหรือแสบบริเวณตุ่มผดเพิ่มมากขึ้น และมีน้ำเหลืองไหลออกมา ควรรีบพบแพทย์ในทันที เพราะอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นดังกล่าวอาจเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

4.มีอาการมีไข้

หากมีไข้ อาการดังกล่าวอาจบ่งบอกว่าตุ่มผดที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดการติดเชื้อหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาร่วมด้วยได้

แนวทางในการรักษาผดร้อน

สำหรับแนวทางในการรักษาผดร้อนนั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลักๆ 2 รูปแบบคือ การรักษาด้วยตัวคุณเอง และการใช้ยา โดยแต่ละรูปแบบเราจะแจกแจงแนวทางรักษาให้คุณได้ทราบเพื่อนำไปปฏิบัติต่อดังนี้

1.การรักษาผดร้อนด้วยตนเอง

ผดร้อนเป็นอาการที่สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อผู้ป่วยอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศเย็น โดยอาจจะใช้ระยะเวลา 2-3 วัน แต่ถ้าหากต้องการให้ผดร้อนหายเร็วขึ้น โดยที่คุณสามารถรักษาให้หายได้ด้วยตนเอง คุณสามารถปฏิบัติตนได้ดังนี้ค่ะ

วิธีดูแลผดร้อนในผู้ใหญ่

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศร้อนชื้น ควรอยู่ในบริเวณที่มีอากาศเย็นและมีเครื่องปรับอากาศถ่ายเท
  • อาบน้ำด้วยน้ำเย็นหรือน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ โดยควรใช้สบู่ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดซับเบาๆ บริเวณที่เกิดผดร้อนเพื่อลดการเสียดสี

วิธีดูแลผดร้อนในเด็กเล็ก

สำหรับผดร้อนที่เกิดกับทารกหรือเด็กเล็กก็มีแนวทางในการดูแลรักษาดังนี้

  • ใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดหลวม ไม่รัดจนเกินไป เพราะจะช่วยให้ระบายอากาศได้ดี
  • ควรให้เด็กอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็นและอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน
  • อาบน้ำเย็น เพื่อชำระเหงื่อและไขมันออกจากร่างกายหรืออาจจะใช้ผ้าเย็นเช็ดตามจุดอับต่างๆ ของร่างกาย
  • เช็ดตัวให้แห้งทันทีหลังจากอาบน้ำ โดยจะใช้ผ้าซับเบาๆ บริเวณที่เกิดผดร้อน
  • ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอหรือสวมถุงมือเป็นประจำ เพื่อป้องกันมือเด็กสัมผัสถูกผิวหนังบริเวณที่เกิดผดร้อน

2.การรักษาผดร้อนด้วยยา

โดยส่วนใหญ่แล้ว ผดร้อนจะหายได้เองเมื่ออากาศเย็นลง โดยใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวเองภายใน 2-3 วัน ซึ่งถ้าหากผดร้อนไม่หายก็สามารถใช้ยาทารักษาอย่างเช่น การทาด้วยยาคารามายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีอาการปวดมากขึ้น ก็สามารถกินยาแก้ปวดด้วยได้ แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แนะนำควรพบแพทย์ดีที่สุด

วิธีป้องกันผดร้อน

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนชื้น
  • หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป โดยควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าโปร่ง เบาสบาย มีการถ่ายเทหรือระบายอากาศได้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหงื่อ อันเป็นสาเหตุของการเกิดผดร้อนตามมา
  • หากอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนบ่อยๆ ควรหมั่นอาบน้ำทำความสะอาดผิวหนัง เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกและเหงื่อออกจากรูขุมขน ไม่ควรปล่อยตัวให้เกิดเหงื่อสะสมหมักหมมนานเกินไปอย่างเด็ดขาด

ผดร้อน เป็นอาการผื่นคันที่สามารถหายได้เองโดยธรรมชาติ ซึ่งปัญหาผิวหนังดังกล่าวมักเกิดมาจากสาเหตุของความร้อนและเหงื่อที่เกิดขึ้นมากกว่าปกติ ผู้ที่เกิดผดร้อนสามารถนำวิธีที่เราแนะนำไปใช้ในการรักษาและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีกได้ แต่หากมีอาการที่รุนแรง ควรรีบพบแพทย์ในทันที