ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (Lymphadenitis) เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมน้ำเหลืองที่เกิดการอักเสบและมีอาการบวมโตกว่าปกติที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน โดยอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งในร่างกายพร้อมกันหรือจะมีอาการเพียงแค่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งก็เป็นได้ ซึ่งสามารถพบได้หลายรูปแบบที่มีอาการเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและ อาการเรื้อรัง และสำหรับแนวทางในการรักษาแต่ละสาเหตุก็จะมีแนวทางในการรักษาที่ต่างกันไป ว่าแต่อาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง บทความนี้เรามีคำตอบมาฝากกันแล้วค่ะ
สาเหตุของ
ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือในผู้ป่วยบางรายก็อาจจะมีการเกิดเนื้องอกจนทำให้เกิดการอักเสบของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นของแต่ละบุคคลก็มักจะมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป
อาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบ
อาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบในผู้ป่วยแต่ละรายมักจะมีอาการที่แตกต่างกัน โดยอาการที่พบเห็นได้บ่อยครั้งและเด่นชัดมีอาการดังนี้
- มีอาการบวมที่เห็นได้เด่นชัดและมีอาการเจ็บบริเวณต่อมน้ำเหลืองจุดใดจุดหนึ่งหรือทุกจุด
- ต่อมน้ำเหลืองมีความแข็งผิดปกติหรือมีขนาดใหญ่กว่าปกติจนเห็นเด่นชัด
- ผิวหนังบริเวณต่อมน้ำเหลืองมีความผิดปกติโดยจะมีอาการแสบร้อน
- มีหนองหรือของเหลวในต่อมน้ำเหลือง
- ผิวหนังบริเวณต่อมน้ำเหลืองมีอาการอักเสบและมีสีแดงที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด
นอกจากอาการที่กล่าวมาแล้ว สำหรับบางคนยังอาจมีอาการไข้ คัดจมูก แขนบวม หรือขาบวม ซึ่งอาจเกิดร่วมกันได้
วิธีรักษาต่อมน้ำเหลืองอักเสบ
อาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบของแต่ละบุคคลนั้นจะมีอาการที่แตกต่างกัน ซึ่งแนวทางในการรักษาก็จะมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป โดยวิธีที่ใช้รักษาต่อมน้ำเหลืองอักเสบ มีวิธีการดังนี้
1.การรักษาในเบื้องต้น
ต่อมน้ำเหลืองอักเสบสำหรับผู้ป่วยบางรายนั้น มีอาการที่ไม่รุนแรงผู้ป่วยก็สามารถรับประทานยาแก้ปวด และประคบด้วยน้ำอุ่น ซึ่งเป็นแนวทางในการรักษาเบื้องต้นโดยสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าหากเกิดอาการปวดบวมที่รุนแรงควรรีบพบแพทย์ในทันทีและผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะรับประทานเอง เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายและอาจจะมีอาการข้างเคียงอื่นๆ เกิดขึ้นได้
2.รักษาโดยการใช้ยา
การรักษาโดยการใช้ยาซึ่งถูกวินิจฉัยจากแพทย์แล้วนั้น ผู้ป่วยจะได้รับยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวด โดยการรักษาในวิธีนี้อาจจะใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 3-7 วัน เพื่อให้อาการปวดและอาการบวมของต่อมน้ำเหลืองลดลง
3.การระบายหนอง
เมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในต่อมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ การระบายหนองก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาที่แพทย์ส่วนใหญ่นิยมทำ และการรักษาด้วยวิธีนี้แพทย์จะทำควบคู่ไปกับการรักษาโดยให้ยารับประทานเพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
ภาวะแทรกซ้อนของต่อมน้ำเหลืองอักเสบที่พบได้บ่อย
ผู้ป่วยที่เป็นโรคต่อมน้ำเหลืองอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็อาจจะมีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นตามมาโดยอาการแทรกซ้อนที่พบเห็นได้บ่อย มีดังนี้
- เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย
- เกิดฝีในร่างกายโดยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกจุด
- เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดเฉียบพลัน
วิธีป้องกันต่อมน้ำเหลืองอักเสบ
ต่อมน้ำเหลืองอักเสบนั้น จะไม่มีวิธีที่ป้องกันได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการปวดตามตัว และจับเจอก้อนเนื้อใต้ผิวหนัง ควรพบแพทย์ในทันที โดยผู้ป่วยไม่ควรใช้เข็มทิ่มหรือเจาะบนตุ่มหนอง ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายและเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้
ต่อมน้ำเหลืองอักเสบเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย จะมีอาการปวดบวมบริเวณต่อมน้ำเหลือง หากได้รับการรักษาที่ถูกวิธีก็จะไม่ส่งผลอันตรายรุนแรง แต่ถ้าหากเกิดภาวะนี้แล้วยังไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับการรักษาที่ไม่ถูกวิธีก็อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถรับมือรู้เท่าทันอาการและเพื่อการรักษาให้หายได้เร็ว แนะนำว่าให้หมั่นสังเกตดูอาการผิดปกติของร่างกายตนเอง หากพบว่ามีอาการต่างๆ ที่เข้าข่ายอาการของต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ไม่ควรนิ่งนอนใจอย่างเด็ดขาด ควรรีบพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะหากเป็นโรคดังกล่าวจริงจะได้รับมือรักษาได้อย่างทันการณ์นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.rattinan.com/liposuction/