อาการคันบนผิวหนังที่เกิดขึ้นจากการระคายเคืองของผิวหนัง โดยจะเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย มักจะเป็นอาการคัน ด้วยปัญหาภูมิแพ้ผิวหนัง การถูกสัตว์กัดต่อย หรือการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด รวมไปถึงเชื้อไวรัสและเชื้อรา การเลือกใช้ยาแก้คันจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยจะมีทั้งรูปแบบยาทาและยารับประทาน ซึ่งจำเป็นจะต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อการใช้ยาอย่างถูกต้องและไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในอนาคต

ยาแก้คันคืออะไร มีกี่ประเภท

อาการคันที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง จะมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบและหลายปัจจัยการเกิด ดังนั้นจึงต้องรู้ต้นตอของการเกิดปัญหาก่อน จึงจะสามารถเลือกใช้ยาแก้คันได้อย่างถูกต้อง โดยมีตั้งแต่ลักษณะอาการคันแบบคันเรื่อย ๆ บนผิวหนัง, อาการคันและแสบร้อนผิวตามมา รวมไปถึงเมื่อคันแล้วเกิดเป็นตุ่มหรือผื่นทันที ส่วนปัจจัยนั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาการระคายเคืองจากสารเคมี, อาการระคายเคืองจากถูกสัตว์กัดต่อย หรืออาการคันจากการแพ้ทางผิวหนัง ด้วยการรับประทานอาหารหรือการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ในผู้ที่มีปัญหาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันลดต่ำลง

นอกจากนี้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคไต, โรคเบาหวาน, โรคดีซ่าน และโรคเรื้อรังอีกหลายโรค สามารถที่จะเผชิญกับปัญหาอาการคันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากสภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน และละอองสารเคมีต่าง ๆ แม้แต่การรับประทานยาบางประเภท ก็สามารถทำให้เกิดอาการคันได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงเกิดเป็นยาแก้คันหรือ Antihistamine ที่ถูกทำขึ้นเพื่อนำมาใช้อย่างเหมาะสมต่อแต่ละปัจจัย ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบด้วยกัน คือ

1.ยาทากลุ่มยาสเตียรอยด์

ยาแก้แพ้แบบทาในกลุ่มของคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในวงการ คือ “ยาสเตียรอยด์” จะเป็นตัวช่วยในการรักษาอาการคัน ผื่นแดงตามผิวหนัง พร้อมทำให้อาการคันหายอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะทายาประเภทที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์จะต้องมีการทำความสะอาดบริเวณที่คันก่อนทายา โดยการใช้สำลีชุบน้ำเช็ดและวางที่บริเวณผิวมีอาการคัน จากนั้นนำยามาทาจะช่วยทำให้ตัวยาซึมลงผิวได้อย่างรวดเร็ว

2.ยาทากลุ่มแคลซินูริน

ยาแก้แพ้แบบทาในกลุ่มต้านแคลซินูริน จะเป็นยาที่ออกลักษณะเนื้อครีมหรือเนื้อขี้ผึ้ง โดยจะไม่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ และจะระงับอาการคันได้ดี แต่จะเป็นการระงับหรือบรรเทาอาการคันตามผิวหนังแบบเบื้องต้น ใช้ได้อย่างปลอดภัย

3.ยารับประทาน

ยาแก้แพ้แบบรับประทานจะมีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม โดยจะเป็นยาแบบต้านสาร Histamine เช่น ยา Diphenhydramine หรือยา Hydroxyzine พร้อมการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน เพราะจะมีทั้งแบบออกฤทธิ์แล้วง่วงนอนกับออกฤทธิ์แล้วไม่ง่วงนอน จะช่วยจัดการเกี่ยวกับปัญหาอาการคันแบบเรื้อรัง อาการคันจากภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นทั้งยาเม็ดและยาน้ำสำหรับผู้ใหญ่กับเด็ก ตัวยาแก้แพ้แบบง่วงจะออกฤทธิ์เพื่อซึมเข้าสู่กระแสเลือดแล้วส่งไปสู่สมอง จากนั้นจะทำการระงับระบบประสาทส่วนกลาง เพื่อทำให้ลดอาการคันลง แต่จะส่งผลให้ผู้ที่รับประทานเกิดอาการง่วงซึม ออกฤทธิ์เร็วภายใน 30 นาที แต่ในขณะเดียวกันก็จะหมดฤทธิ์เร็วด้วยเช่นกันและจะต้องรับประทานยาถึงวันละ 3 ครั้ง ส่วนยาแก้แพ้แบบไม่ง่วงจะเป็นการดูดซึมตัวยาผ่านเข้าสู่สมองส่วนกลาง ที่จะน้อยกว่ายาแบบง่วงหรืออาจจะไม่ถูกดูดซึมไปเลย จึงทำให้ผู้ที่รับประทานจะสามารถใช้ชีวิตตามปกติ การรับประทาน 1 เม็ด จะสามารถอยู่ได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง

4.ยาแบบฉีด

ยาแก้คันแบบฉีดจะมาในรูปแบบฉุกเฉิน โดยจะถูกเรียกว่า Epipen เป็นการนำตัวยาแบบ Epinephrine ที่อยู่ในรูปแบบของกระบอกฉีดอัตโนมัติ จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาอาการแพ้รุนแรงและอาจจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ง่าย ต้องมีการนำพกพาติดตัวไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว เช่น ผู้ที่มีผื่นแพ้ขึ้นจำนวนมากและรวดเร็ว มีทั้งอาการคัน อาการเจ็บ รวมไปถึงอาการปากบวม ลิ้นชา หายใจไม่คล่อง เป็นลมพิษ และอาจจะมีอาการอาเจียนกับท้องเสียร่วมด้วย ซึ่งถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจจะเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องใช้ยาแก้คันแบบฉีดอัตโนมัติ แต่จำเป็นจะต้องใช้ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์หรือการสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาแก้คัน

การใช้ยาแก้แพ้หรือยาแก้คัน จำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้นถ้าเป็นการซื้อยาจากเภสัชกรตามร้านขายยาทั่วไป ควรต้องปรึกษากับเภสัชกรอย่างชัดเจนก่อน เมื่อมีการจ่ายยาแล้วจะต้องรับประทานตามปริมาณที่ถูกระบุไว้ในคำแนะนำของเภสัชกรเท่านั้น เพื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาใด ๆ ต่อสุขภาพในอนาคต ซึ่งข้อควรระวังของการใช้ยาแก้คัน คือ ถ้ามีประวัติแพ้ยาประเภทใด ควรจะต้องระมัดระวังให้มากและต้องปรึกษาแพทย์เท่านั้น เข้าทดสอบอาการภูมิแพ้ทางผิวหนังหรือการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อดูว่าอาการคันของคุณเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

เมื่อรับประทานยาแก้คันแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้ารับประทานยาแก้คันแบบง่วง ไม่ควรทำงาน หรือใช้ยานพาหนะใด ๆ เพราะจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ง่าย การใช้ยาแก้คันในเด็กควรต้องได้รับการเห็นชอบจากแพทย์เท่านั้น เพราะจะเสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับของเด็กได้ง่าย สำหรับสตรีมีครรภ์จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกใช้ยาแก้คันที่แพทย์สั่งเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นยาทาหรือยารับประทาน เพราะอาจส่งผลไปสู่เด็กที่อยู่ในครรภ์ได้ง่าย